สาเหตุที่เครื่องประดับเงินดำคล้ำนั้น เพราะมีส่วนผสมของเงิน (Ag) ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับซัลเฟอร์ในอากาศ ทำให้เกิดความหมองคล้ำโดยธรรมชาติอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความเค็มของเหงื่อของผู้สวมใส่ด้วย คนที่มีเหงื่อเค็มจะทำให้เครื่องประดับเงินดำคล้ำได้เร็วมากขึ้น นอกจากนี้พวกคราบเครื่องสำอาง คราบโลชั่น หรือคราบสกปรกต่างๆ ที่ค้างอยู่ที่ตัวเครื่องประดับ แล้วไม่ได้ล้างทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ก็ทำให้ตัวเรือนเงินดำคล้ำขึ้นได้เช่นกัน
อีกสาเหตุที่ทำให้เครื่องประดับเงินเกิดอาการหมองหรือดำคล้ำ คือ มีเปอร์เซ็นต์ของเนื้อเงินที่เป็นส่วนผสมในตัวเรือนน้อยเกินไป ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์ของเงิน (Ag) มาก ก็จะหมองช้าลง โดยมาตรฐานของเครื่องประดับเงินที่ใช้กันโดยทั่วไปคือ เงิน 925 หมายถึงมีเนื้อเงิน (Ag) ผสมอยู่ 92.5% อีก 7.5% ที่เหลือ เป็นโลหะผสมชนิดอื่นๆ
ผู้ผลิตบางรายเลือกที่จะผสมเนื้อเงิน (Ag) ลงไปในอัตราส่วนที่สูงขึ้น หรือผสมแพลเลเดียม (Palladium) หรือโลหะทรานซิชั่นอื่นๆลงไป เพื่อทำให้เครื่องประดับเงินนั้นหมองคล้ำช้าลง กลายเป็น Long Lasting Silver หรือเครื่องประดับเงินที่มีความขาวแวววาวยาวนาน สร้างตลาดเครื่องประดับเงินเกรดพรีเมียมขึ้นมา เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องประดับเงินที่มีความขาววาวยาวนาน ไม่หมองคล้ำง่าย แต่มีราคาถูกกว่าเครื่องประดับทองขาว (White Gold) หลายเท่า
อีกวิธีหนึ่งที่นิยมมากในการยืดอายุเครื่องประดับเงินให้ขาวแวววาวยาวนาน นั่นคือ การชุบโรเดียม ซึ่งจะให้สีขาวที่แวววาวเงางามกว่าสีของเนื้อเงินปกติมาก และช่วยให้เครื่องประดับเงินไม่ดำคล้ำยาวนานหลายเดือนหรือหลายปีทีเดียว ขึ้นอยู่กับความหนาของการชุบ ยิ่งชุบหนาความเงางามก็ยิ่งอยู่ได้ยาวนานขึ้น การชุบโรเดียมที่ดีควรชุบหนา 1.0 – 1.5 ไมครอน
เครื่องประดับเงินจึงมีหลายเกรดหลายราคา ตามปริมาณเนื้อเงิน (Ag) ที่ผสมอยู่ และความหนาของการชุบเคลือบที่แตกต่างกัน ดังนั้นตอนเลือกซื้อเครื่องประดับเงิน เราต้องตรวจดูรายละเอียดสินค้าหรือสอบถามจากผู้ขายทุกครั้ง เพื่อให้ได้สินค้าตามคุณภาพและราคาที่เหมาะสม และต้องเลือกซื้อจิวเวลรี่ที่เขียนว่า Nickel Free คือไม่ผสมสารนิกเกิล เพราะนิกเกิลเป็นสารพิษอันตราย สวมใส่แล้วอาจมีอาการคัน เป็นผื่นแพ้ หรือผิวหนังอักเสบได้
การทำความสะอาดเครื่องประดับเงินมีหลายวิธี โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการนำเครื่องประดับเงินไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำมะขามเปียก หรือน้ำมะนาว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดผึ่งให้แห้ง ก็จะได้เครื่องประดับเงินที่ดูเงางามดังเดิม หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ควรเก็บไว้ในถุงซิปล็อค หรือบรรจุภัณฑ์สูญญากาศจะดีที่สุด